ประสบการณ์ภาวนา โดยคุณพิสิษฐ์
เมื่อเราอยู่ในโลกแห่งมายาจอมปลอมนี้จนผมหงอกขาวหมดไปทั้งหัวแล้ว พวกเราต้องการอะไร? และเมื่อไฟแห่งชีวิตกำลังจะมอดลง ใจเต้นอ่อนลง และลมหายใจกำลังจะขาดรอน ๆ อะไรคือสิ่งสุดท้ายที่เราหวัง? และเมื่อกายของเรากำลังเน่าเปื่อยอยู่ในสุสาน ธาตุกลับคืนสู่ธาตุ ธาตุดินสู่ดิน ชีวิตกลายเป็นสิ่งไร้ความรู้สึกในความว่างเปล่า… แล้วเราอยู่ที่ไหน?
เนื้อเรื่องในธรรมบรรยายคอร์สศิษย์เก่าคืนที่ 4 ทำให้ยิ่งต้องเร่งรีบเขียนประสบการณ์ก่อนที่ สัญญาหรือความจำจะเริ่มจางหาย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในเช้าของวันทำงาน ศิษย์พี่กัลยาณมิตรท่านหนึ่งได้โทรมาบอกเล่า ถึงภาพนิมิตที่เธอเห็นขณะภาวนา เสมือนลางบอกเหตุที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมรับฟังและตั้งสติรอจนถึงวันที่ได้เข้าคอร์สภาวนา ช่วงก่อนขึ้นเรือนปฎิบัติ ผมตั้งจิตอธิษฐานที่ลานโพธิ์ว่า หากมีเหตุไม่ดีที่จะเกิดขึ้นกับตน ขอให้ผมได้รับรู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อหาทางแก้ไขได้ทัน
“ศิษย์กำลังจะตายหลังจากออกคอร์สปฎิบัติ” ผมรายงานถึงสภาวธรรมต่อท่านอาจารย์ ในวันที่ 2 ของการปฏิบัติ ผมเห็นภาพว่าผมประสบอุบัติเหตุและมีนายนิรยบาลสองตน ถือหอกกำลังหิ้วปีกผมทั้งสองข้าง ทันใดนั้นชื่อฤาษีตนหนึ่งผุดขึ้นมาในจิต และต่อด้วยคำว่า “ปรามาส” ดังก้อง หลังจากสิ้นเสียงรายงานสภาวธรรม ท่านอาจารย์กล่าวว่า ฤาษีตนนั้นเป็นครูบาอาจารย์ของเธอเอง คำว่าปรามาสนั้น ยังน้อยเกินไป สำหรับผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์แล้วคำนี้จะต้องเรียกว่า “อกตัญญู” วินาทีนั้นเองใจผมรู้สึกห่อเหี่ยวสลดในบุพกรรมตัวเองขึ้นมาทันที คำว่า อกตัญญู คือ เนรคุณ ทรยศ หักหลัง ไม่ซื่อสัตย์ ผู้ระลึกไม่ได้ว่าใครเคยทำดีเคยช่วยเหลือเกื้อกูลตนมา ผู้ลืมบุญคุณของคนอื่นที่ทำแก่ตนมา ผู้ไม่ยอมรับบุญคุณของใครทั้งนั้น เรียกว่า คนอกตัญญู ให้เธอจงไปน้อมกราบขอขมาต่อคุณพระศรีรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ และฤาษีตนนั้นที่ต้นโพธิ์ กรรมนี้เป็นกรรมที่ทำต่อครูบาอาจารย์แม้ว่าครูบาอาจารย์จะอโหสิกรรมให้ แต่วิถีของกรรมยังคงมี ยังคงจะได้รับวิถีแห่งกรรมนั้น
ท่านอาจารย์ได้เมตตาแนะนำให้ผมรำลึกถึงพระคุณครูบาอาจารย์พร้อมทั้งสิ่งที่ได้กระทำไว้ในชาตินี้ “เมื่อเธอได้ปวารณาตนทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา เมื่อเธอได้เป็นศิษย์พระยาธรรมมิกราชแล้ว อาจารย์จะช่วยเธอ อาจารย์จะแบ่งบุญของอาจารย์ให้เธอ”
เมื่อสิ้นเสียงท่านอาจารย์ในขณะที่กำลังประนมมือและก้มหน้าด้วยใจที่สลดหดหู่ หลังจากระลึกถึงบุพกรรมนั้น ผมรู้สึกถึงแสงสว่างจ้าเป็นดวงกลม ๆ ล่องลอยจากท่านอาจารย์ เข้ามาในบริเวณกลางหน้าอกของผม ทำให้รู้สึกเข้มแข็งและมีความฉ่ำเย็นไปพร้อม ๆ กัน ท่านอาจารย์ถามต่ออีกว่า
“เธอได้เห็นสิ่งที่มีศิษย์กล่าวจาบจ้วงอาจารย์หรือไม่”
“ได้เห็นครับ ยอมรับว่ามันรุนแรงมาก”
“ในอดีตเธอก็เป็นเช่นนั้น แล้วเธอคิดว่าเธอจะให้อภัยคนผู้นี้ได้หรือไม่”
สิ้นเสียงท่านอาจารย์ ผมได้แต่นิ่งเงียบ อึ้ง ไม่มีคำตอบใด ๆ ท่านกล่าวว่า
“ให้เธอจงพากเพียรชำระจิตให้บริสุทธิ์ วิถีแห่งกรรมนั้นจะเบาบางลง”
เมื่อเสร็จสิ้นการสอบอารมณ์ ผมจึงไปที่ต้นโพธิ์เพื่อขอขมาและนึกน้อมตามที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวสอน ขณะกำลังจะก้มลงกราบลงเป็นครั้งที่ 3 ได้ปรากฏภาพเท้าของชายแก่ผุดขึ้นมารองรับหน้าผากที่กำลังจะแตะที่พื้นทราย ในจิตแจ้งว่าเป็นครูฤาษีตนนั้น ในสองวันต่อมาท่านอาจารย์เทศน์สอนเรื่องพระคุณของครูและให้ศิษย์น้อมขอขมา และภาวนาถวายเป็นพุทธบูชา และอาจาริยบูชาต่อพระรัตนรัย พ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งหลายและครูทุกชาติภพที่เราได้หลงลืมพระคุณไป ระหว่างภาวนาผมเห็นภาพครูในอดีตชาติทั้งหมดไล่เรียงกันมาเป็นสาย ชายแก่ พระ ฤาษี และครู ทั้งในทางโลกและทางธรรม จนมาสะดุดตาที่ชายผิวดำไว้หนวดนุ่งผ้าคาดเอวท่าทางแข็งแรงหันมายิ้มให้ ในความรู้สึกนั้น รู้ได้ว่าชายปอกมะพร้าวนี้เป็นครูคนหนึ่งของเรา และในวันสุดท้ายที่เป็นการอธิษฐานแบ่งบุญ ผมรู้สึกถึงครูอาจารย์มากมายล้อมมุงดูศิษย์อยู่ข้างบน หลังจากแบ่งบุญเสร็จแล้ว พลันได้ยินเสียงหนึ่งแว่วเข้ามาในโสตประสาทว่า “เราภูมิใจเหลือเกินที่มีท่านเป็นศิษย์”
พระคุณของครูบาอาจารย์ในทางโลกและทางธรรม คือผู้หลอมรวมวิชาและปัญญาให้มีเราในทุกวันนี้ หลายคนให้นิยามว่าครูเป็นดั่งแสงตะเกียงที่ส่องสว่าง หรือเป็นเรือจ้าง และคาดหวังว่าครูจะเป็นอย่างที่ตนคิด ตรงกันข้าม ครูกลับหวังแต่ให้ศิษย์มีวิชา มีความรู้ไว้เลี้ยงตนและรอดพ้นจากภัย เรามักจะจำครูคนสุดท้ายได้เสมอ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จะอีกกี่ภพชาติ ครูก็ยังเป็นครู ยังคงเฝ้ามองแต่ความสำเร็จของศิษย์
แม้ในวันที่ศิษย์กลับหลงลืมท่านไปแล้ว
แล้วท่านล่ะ ยังจำได้ไหมครูคนแรกของท่านเป็นใคร?
เป็นประสบการณ์ที่ชัดเจนและปลุกจิตให้ตื่นรู้ถึงพระคุณของพ่อแม่ครูอาจารย์อย่างยิ่งค่ะ ขอน้อมอนุโมทนาสาธุในธรรมทานบทนี้ด้วยค่ะ
ถูกใจถูกใจ
นับเป็นอุทาหรณ์สอนใจอย่างดี ในการไม่ทำสิ่งที่เป็นอกุศลกรรมทั้งหลาย โดยเฉพาะการจาบจ้วง ปรามาสต่อครูบาอาจารย์หรือผู้มีพระคุณ ย่อมส่งผลอันเหลือประมาณจริงๆ ครับ
ถูกใจถูกใจ
เป็นเรื่องเตือนใจที่น่ากลัวจริงๆค่ะสำหรับใครที่คิดอกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ เเม้เพียงพลั้งเผลอ…ขอบคุณมากนะคะสำหรับประสบการณ์ที่เล่าสู่กันฟังเป็นธรรมทานนี้
ถูกใจถูกใจ
อ่านแล้วซาบซึ้งใจเหลือประมาณคะ ขออนุโมทนาสาธุในธรรมที่ท่านได้แบ่งปันคะ สาธุๆๆคะ ขอบพระคุณมากๆคะ
ถูกใจถูกใจ
เรื่องที่ท่านแบ่งปันนี้เป็นการตอกย้ำเรื่องการมีสัมมาคาราวะต่อ พระรัตนตรัย พ่อแม่ครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณได้เป็นอย่างดี ว่าทำไมตอนเราเป็นเด็กเล็กพ่อแม่ครูอาจารย์ มักสอนให้เรามีสัมมาคาระต่อผู้ใหญ่ มีความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ
ถูกใจถูกใจ
เป็นประสบการณ์ที่ทำให้ต้องคิดถึง คนที่เราเรียกว่าครู แม้บางครั้งเราอาจลืม แต่เมื่ออ่านบทความนี้แล้วทำให้นึกถึงขึ้นมา ในความเป็นตัวตนเราว่าใครสอนสั่งมาบ้าง ทำให้สำนึกในความเป็นครูทุกท่านที่สามารถนึกถึงได้ครับ
ขอบคุณและขออนุโมทนาบุญ ที่แบ่งบันข้อธรรมนี้ครับ
ถูกใจถูกใจ
พระคุณและความเมตตาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์นั้น ล้นพ้นเกินประมาณ จงยังความกตัญญูแก่จิตตนและรักษาไว้ตราบชรวิตจะหาไม่เถิด
ถูกใจถูกใจ
ขอน้อมกราบแทบเท้าท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ด้วยความเคารพเหนือเศียรเกล้า พระคุณของท่านอาจารย์ยิ่งใหญ่จนศิษย์ไม่อาจคะแนได้ว่ายิ่งใหญ่เพียงใด ตอบแทนอย่างไรก็คงหาที่สุดมิได้ เพราะการทำให้สำนึกในธรรม ในการละเว้นการทำบาป ให้ทำความดี ให้หมั่นชำระจิตให้บริสุทธิ์ และทำความดีเพื่อตอบแทนความกตัญญูของผู้อื่น ตั้งแต่พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และทุกผู้ทุกนาม เพราะหากยังกระทำตนอยู่เช่นเดิมไม่รู้เลยว่าภพชาติต่อไปจะเป็นอย่างไร คงมีแต่ลงต่ำ ลงอบายไป และภพชาติที่จะต้องวนเวียนไปอีกไม่รู้กีภพกี่ชาติ บัดนี้ ตั้งใจแล้วว่าภพชาติของเราจะไม่มีอีกต่อไป ชาตินี้จะเป็นชาติสุดท้ายของเรา ขอขอบคุณประสบการณ์ธรรมของคุณพิสิษฐ์มากครับ ขอน้อมจิตอนุโมทนาสาธุด้วยครับ
ถูกใจถูกใจ
ขอบคุณที่บอกเล่าประสบการณ์ให้ได้อ่านสอนใจค่ะ
ถูกใจถูกใจ
เมื่อได้อ่านประสบการณ์ ได้เรียนรู้และสำนึกไปพร้อมๆกัน ทำให้รำลึกในพระคุณดั่งที่ท่านอาจารย์ได้คอยสอน ศิษย์ขอทำตนต่อจากนี้ให้ดีและเพียรตามคำสอนค่ะ
ถูกใจถูกใจ
ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่ให้ธรรมะทานนี้ อ่านไปขนลุกไปกับโทษภัยที่เราอาจก่อไว้โดยไม่อาจรู้ ระลึกได้ ขอน้อมอนุโมทนาสาธุค่ะ
ถูกใจถูกใจ
ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์ จะได้พึงระวังตนมิให้กระทำผิดต่อครูบาอาจารย์ น้อนอนุโมทนาสาธุค่ะ
ถูกใจถูกใจ